top of page
  • Writer's pictureCate Suphastian

3D Printing เทคโนโลยีที่จะปฏิวัติวงการสถาปัตยกรรมสู่โลกอนาคต



3D Printing เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์ การบินและอวกาศ ยานยนต์ แต่ส่วนที่น่าทึ่งที่สุดคือการใช้เทคโนโลยีนี้ในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง การพิมพ์ 3 มิติสำหรับการก่อสร้าง หรือที่เรียกว่า 3D Printing for Construction ก่อให้ประโยชน์มากมายเมื่อเทียบกับวิธีการก่อสร้างแบบปกติดั้งเดิม ในบทความนี้ INFINI I.A. ขอนำเสนอข้อดีต่าง ๆ ของ 3D Printing ในการก่อสร้าง ว่ามันสามารถปฏิวัติวงการสถาปัตยกรรมได้อย่างไร


3d-printing-เทคโนโลยีที่จะปฏิวัติวงการสถาปัตยกรรมสู่โลกอนาคตนโลยี 3D printing กับการออกแบบ


การพิมพ์สามมิติเป็นการสร้างวัตถุรูปแบบสามมิติจากไฟล์ดิจิทัล ซึ่งช่วยให้สถาปนิกสามารถสร้างโมเดลบ้านที่ออกแบบเอาไว้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่างานออกแบบนั้นจะมีรายละเอียดมากแค่ไหน โดยในปัจจุบันได้มีการนำ 3D Printing มาใช้ในงานก่อสร้างด้วย ซึ่งสามารถสร้างโครงสร้างบ้านได้ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์


ประโยชน์ของ 3D Printing ในงานสถาปัตยกรรม


1. ลดระยะเวลาในการดำเนินการลงได้

3D Printing ช่วยลดระยะเวลาในการก่อสร้างลงอย่างมาก เนื่องจากอัตราความเร็วในการทำงานของเครื่องจักร ซึ่งบางเครื่องมีกำลังผลิตมากถึง 55 - 75 ตารางเมตร โดยใช้เวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น อีกทั้งยังมีความแม่นยำสูง ทำให้ช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงานลงได้ นอกจากนี้ เครื่องจักรยังมีความเสถียรในแง่ของประสิทธิภาพในการทำงานที่คงที่ สม่ำเสมอ และมีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานกว่ามนุษย์มาก


2. คุมงบประมาณการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เครื่องจักร 3D Printing สามารถคำนวณและคาดการณ์การใช้วัสดุได้ตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน จึงใช้วัสดุก่อสร้างในปริมาณที่จำเป็นเท่านั้น ส่งผลทำให้มีวัสดุเหลือทิ้งน้อยกว่าการก่อสร้างแบบดั่งเดิม อีกทั้ง ยังสามารถลดกำลังคนในการก่อสร้าง ช่วยให้สามารถควบคุมงบประมาณเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังส่งผลทางอ้อมให้ไซต์งานก่อสร้างมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเครื่องจักรสามารถทำงานงานก่อสร้างที่มีความเสี่ยงแทนมนุษย์ได้


3. บ้านมีรูปแบบที่โดดเด่นและล้ำสมัย


ในงานก่อสร้างสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อนและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จำเป็นต้องใช้ช่างผู้ชำนาญและมีประสบการณ์สูง ซึ่งมีจำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับความต้องการในปัจจุบัน ทำให้ค่าจ้างพุ่งสูงขึ้นและทำให้งบประมาณในการก่อสร้างสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้สถาปนิกมีข้อจำกัดในงานออกแบบเพราะต้องคำนึงถึงความชำนาญและศักยภาพในการก่อสร้างของช่างด้วย แต่ 3D Printing คือ solution ใหม่ ช่วยให้สถาปนิกสามารถออกแบบบ้านได้อย่างไรขีดจำกัด โดยไม่ต้องกังวลถึงศักยภาพของช่างหรืองบประมาณในการก่อสร้าง เนื่องจากมีความแม่นยำสูงในการก่อสร้าง บ้านที่ใช้เทคโนโลยีนี้จึงมีความโดดเด่นและล้ำสมัยมากกว่าที่เคยเป็นมา


แม้การใช้ 3D Printing ในสถาปัตยกรรมยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ศักยภาพของมันยังสามารถไปได้อีกไกลมาก เพราะในปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้วงการสถาปัตยกรรมมีความสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และล้ำสมัยมากขึ้นในอนาคต เรียกได้ว่า 3D Printing เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับวงการสถาปัตยกรรมในอนาคตได้อย่างไม่ต้องสงสัย


237 views0 comments
bottom of page